แบตเตอรี่ของเครื่องขัดพื้นอัตโนมัติ
- “แบตเตอรี่ของคุณมีอายุการทำงานกี่รอบ (cycle)?” หนึ่งรอบหมายถึง หนึ่งครั้งที่กระแสไฟฟ้าได้ปล่อยออกจากแบตเตอรี่และหนึ่งครั้งที่ชาร์จ / ประจุกระไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ ซึ่งอายุการทำงานของแบตเตอรี่อยู่ระหว่าง 500 - 700 รอบ ดังนั้น ถ้าลูกค้าใช้เครื่องทุกวันเป็นเวลา 4 - 5 ชั่วโมงต่อวัน แบตเตอรี่ควรจะมีอายุการทำงานประมาณ 1 ½ ปี - 2ปีภายใต้การใช้งานตามปกติ นี่คือข้อปฏิบัติโดยทั่วไป
- เป็นการดีที่จะเติมน้ำกลั่นในแบตเตอรี่หลังจากชาร์จกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่เต็มแล้ว แต่ไม่ใช่ก่อนการชาร์จประจุกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่
- คุณสามารถบอกได้อย่างไรว่า แบตเตอรี่นั้นมีกี่โวลท์? โดยการนับช่องด้านบนของแบตเตอรี่และคูณด้วย 2 นั่นคือแต่ละช่องมี 2 โวลท์ ดังนั้น ถ้าแบตเตอรี่มี 3 ช่องสำหรับเติมน้ำกลั่น แสดงว่าแบตเตอรี่นั้นมี 6 โวลท์ 6 ช่องในแบตเตอรี่หมายถึง แบตเตอรี่มี 12โวลท์
- คุณควรเติมน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ โดยเติมให้เหนือแผ่นตะกั่วเพียงครึ่งนิ้ว ถ้าคุณเติมน้ำกลั่นจนเต็มแบตเตอรี่ ก็จะทำให้น้ำกรดภายในเดือดอาจก่อให้เกิดอันตรายหรือเกิดการผุกร่อนได้ถ้าไม่มีถาดพลาสติกหุ้มอยู่ ถ้าพบของเหลวหลงเหลืออยู่ในถาดพลาสติก ควรเอาใจใส่เป็นพิเศษและให้ความระมัดระวังส่วนการถ่ายของเหลวออกนั้น ให้ใช้ท่อระบายน้ำด้านหลังของถาดพลาสติก และควรสวมแว่นตาและถุงมือยางป้องกัน
- ถ้าแบตเตอรี่ไม่สามารถชาร์จกระแสไฟฟ้าได้ ควรตรวจสอบดังต่อไปนี้ ตรวจดูว่าปลั๊กไฟจากเครื่องชาร์จที่เสียบนั้นพร้อมทำงาน ตรวจดูสายฟิวส์ในเครื่องชาร์จด้วยเครื่องวัดความต้านทานของไฟฟ้า (Ohm Meter) ว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน จำไว้เสมอว่า ถ้าแบตเตอรี่ 24 โวลท์ที่อ่านค่าได้ต่ำกว่า 14 โวลท์ เครื่องชาร์จไฟอัตโนมัติจะไม่ติด เหมือนกันกับระบบชาร์จ 36 โวลท์ ถ้าเดินเครื่องต่ำกว่า 28 โวลท์ ระบบชาร์จไฟอัตโนมัติก็จะไม่ทำงาน คุณสามารถเช็คแบตเตอรี่ด้วยเครื่องวัดโวลท์ (Volt Meter) เพื่อดูว่ามีกระแสไฟกี่โวลท์ที่ออกจากปลั๊กไฟฟ้า ถ้าโวลท์ต่ำกว่าช่วงการชาร์จที่กำหนด ควรถอดสายพ่วงออกจากแบตเตอรี่ และใช้เครื่องชาร์จอัตโนมัติเครื่องเล็กที่จะชาร์จ 6 - 10 แอมป์ต่อ 1แบตเตอรี่จนกระทั่งชาร์จเต็ม แล้วนำสายพ่วงมาต่อเข้ากับแบตเตอรี่ทั้งหมดอีกครั้งและเสียบปลั๊กกับเครื่องชาร์จอัตโนมัติ โดยปกติการนำแบตเตอรี่ที่อยู่ในระดับการชาร์จขั้นต่ำที่กำหนด เครื่องชาร์จอัตโนมัติจะติดทันที
- วิธีที่ดีที่สุดในการตรวจเช็คแบตเตอรี่ที่มีสภาพดีอยู่ด้วยเครื่องวัดน้ำหนักพิกัดของของเหลว (Hydrometer) เครื่องมือนี้มีลูกบอลสีลอยอยู่หรือมีฟองแก้วที่มีตัวเลขอยู่ข้างในเครื่องมือนี้ เมื่อคุณเช็คแบตเตอรี่ ค่าที่ระบุควรแสดงค่าอยู่ระหว่าง 1.250 - 1.280 การอ่านค่าของเครื่องวัดน้ำหนักพิกัดของของเหลว (Hydrometer) ของแบตเตอรี่แต่ละอันควรมีค่าใกล้เคียงกัน ถ้าหน่วยค่าที่ระบุมีความผันผวนมากกว่า 30จุด แบตเตอรี่นั้นควรถูกเปลี่ยน
- ถ้าลูกค้าเดินเครื่องได้เพียง 10 – 15 นาทีหลังจากชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว นั่นหมายความว่า แบตเตอรี่ตัวหนึ่งดึงโวลท์ให้ต่ำลง ให้ชาร์จแบตเตอรี่ทั้งหมดอีกครั้ง แล้วจึงเปิดมอเตอร์แปรงและมอเตอร์ดูดประมาณ 15 นาที เพื่อดึงกระไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาใช้ แล้วนำเครื่องวัดโวลท์ (Volt Meter) มาเช็คแบตเตอรี่แต่ละตัวเพื่อดูว่าแบตเตอรี่ตัวไหนดูดกระแสไฟฟ้าต่ำกว่า 6 หรือ 12โวลท์ แล้วจึงนำแบตเตอรี่ที่เสียออกและนำแบตเตอรี่ใหม่มาใส่ใหม่
เมื่อไรก็ตามที่คุณแสดง / กล่าวถึงเครื่องมือที่มีชิ้นส่วนของแบตเตอรี่ ให้จำไว้เสมอว่าเครื่องมือเหล่านี้โดยทั่วไปแล้วง่ายในการดูแลรักษา แต่ปัญหาใหญ่ๆ คือ การตรวจเช็คระดับน้ำในแบตเตอรี่ ถ้าสามารถอบรมผู้ใช้งานในการดูแลรักษาระดับน้ำกลั่นอย่างถูกต้อง งานของคุณก็จะเป็นเรื่องง่าย